ปี ค.ศ.
|
ชื่อสิ่งประดิษฐ์
|
ผู้ประดิษฐ์
|
ค.ศ. 1617
|
ประดิษฐ์เครื่องคิดเลข “เนเปียร์สโบนส์” (Nepier’s Bones
|
จอห์น เนเปียร์ (John
Nepier) ชาวสก็อต
|
ค.ศ. 1632
|
ประดิษฐ์ไม้บรรทัดคำนวณ
(Slide
Rules) เพื่อใช้ในทางดาราศาสตร์ ถือเป็น คอมพิวเตอร์อนาลอก
เครื่องแรกของโลก
|
วิลเลี่ยมออตเทรต
(William
Oughtred)
|
ค.ศ. 1642
|
ประดิษฐ์เครื่องบวกเลขแบบมีเฟืองหมุนคือมีฟันเฟือง 8 ตัว
เมื่อเฟืองตัวหนึ่งนับครบ 10 เฟืองตัวติดกันทางซ้ายจะขยับไปอีกหนึ่งตำแหน่ง
ซึ่งหลักการนี้เป็นรากฐานของการพัฒนาเครื่องคำนวณ และถือว่า เครื่องบวกเลข (Adding
Machine) ของปาสคาลเป็น เครื่องบวกเลขเครื่องแรกของโลก
|
แบลซปัสกาล(Blaise
Pascal: 1623 - 1662)ชาวฝรั่งเศส
|
ค.ศ. 1673
|
ออกแบบเครื่องคิดเลขแบบใช้เฟืองทดเพื่อทำการคูณ
ด้วยวิธีการบวกซ้ำ
ๆ กัน ไลบนิซเป็นผู้ค้นพบจำนวนเลขฐานสอง (Binary Number) ซึ่งประกอบด้วยเลข
0 และ 1 เป็นระบบเลขที่เหมาะในการคำนวณ
เครื่องคิดเลขที่ไลบนิซสร้างขึ้น เรียกว่า Leibniz Wheel สามารถ
บวก ลบ คูณ หาร ได้
|
กอตฟริต
ฟอน ไลบนิซ(Gottfried
von Leibniz : 1646
1716)นักปรัชญาและนักคณิตศาสตร์
ชาวเยอรมัน
|
ค.ศ. 1804
|
ประดิษฐ์ Jacquard’s Loom เป็นเครื่องทอผ้าที่ควบคุมการทอผ้าลายสีต่าง ๆ ด้วยบัตรเจาะรู (Punched
– card) จึงเป็นแนวคิดในการประดิษฐ์เครื่องเจาะบัตร (Punched
– card machine) สำหรับเจาะบัตรที่ควบคุมการทอผ้าขึ้น
และถือว่าเป็นเครื่องจักรที่ใช้โปรแกรมสั่งให้เครื่องทำงานเป็นเครื่องแรก
|
โจเซฟ
มารี แจคการ์ด (Joseph
Marie Jacquard : 1752 - 1834) ชาวฝรั่งเศส
|
ค.ศ. 1822
|
ได้คิดสร้างเครื่องวิเคราะห์ (Analytical
Engine) ซึ่งแบ่งการทำงานออกเป็น 3 ส่วนคือ ส่วนเก็บข้อมูล
ส่วนควบคุม และส่วนคำนวณ โดยออกแบบให้ใช้ระบบพลังเครื่องยนต์ไอน้ำเป็นตัวหมุนเฟือง
และนำบัตรเจาะรูมาใช้ในการบันทึกข้อมูล
สามารถคำนวณได้โดยอัตโนมัติและเก็บผลลัพธ์ไว้ในหน่วยความจำก่อนแสดงผล
ซึ่งจะเป็นบัตรเจาะรูหรือพิมพ์ออกทางกระดาษ แต่ความคิดของแบบเบจ
ไม่สามารถประสบผลสำเร็จเนื่องจากเทคโนโลยีในสมัยนั้นไม่เอื้ออำนวย
แบบเบจเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1871 ลูกชายของแบบเบจคือHenry Prevost Babbage ดำเนินการสร้างต่อมาอีกหลายปีและสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1910( หลักการของแบบเบจ
ถูกนำมาใช้ในการสร้างเครื่องคอมพิวเตอร์สมัยใหม่จนถึงปัจจุบัน
แบบเบจจึงได้รับการยกย่องให้เป็น
บิดาแห่งคอมพิวเตอร์ )
|
ชาร์ลส์
แบบเบจ (Charles
Babbage: 1792 - 1871)
ศาสตราจารย์ทางคณิตศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ของอังกฤษ
|
ค.ศ. 1833
|
นักคณิตศาสตร์ผู้ร่วมงานของแบบเบจ
เป็นผู้ที่เข้าใจในผลงานและแนวความคิดของแบบเบจ
จึงได้เขียนบทความอธิบายเทคนิคของการเขียนโปรแกรม
วิธีการใช้เครื่องเพื่อแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เป็นครั้งแรก
ทำให้เกิดความเข้าใจในผลงานของแบบเบจได้ดีขึ้น Ada จึงได้รับการยกย่องให้เป็น
นักโปรแกรมเมอร์คนแรกของโลก
|
|
ค.ศ.1850
|
สำนักงานสำรวจสำมะโนประชากรสหรัฐอเมริกาได้ทำการสำรวจสำมะโนประชากรโดยใช้แรงงานคนในการประมวลผล
ต้องใช้เวลาถึง 7 ปีครึ่งยังไม่แล้วเสร็จ
ข้อมูลที่ได้ไม่แน่นอนและไม่ค่อยถูกต้อง ต่อมา ค.ศ. 1890 สำนักงานฯ
จึงได้ว่าจ้าง ฮอลเลอริธ มาทำการประมวลผลการสำรวจ ปรากฏว่าเมื่อใช้เครื่องทำตารางข้อมูล
(Tabulating
machine) และหีบเรียงบัตร (Sorting) ของฮอลเลอริธแล้ว
ใช้เวลาในการประมวลผลลดลงถึง 3 ปี
|
|
ค.ศ. 1884
|
ฮอลเลอริธ
ได้ตั้งบริษัทผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์การประมวลผลด้วยบัตรเจาะรู
และต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัทไอบีเอ็ม (International Business Machines
Corporation) ในปี ค.ศ. 1924
|
ดร.เฮอร์มาน ฮอลเลอริธ (Dr.Herman
Hollerith)
|
ค.ศ. 1880
|
หลังจากที่มอชลีและเอ็คเคิร์ท
ได้ร่วมมือกันจัดตั้งบริษัทผลิตคอมพิวเตอร์ออกขาย แต่ประสบปัญหาทางการเงิน
จึงขายกิจการให้กับบริษัท Speery Rand Corporation และได้ร่วมมือกันสร้างเครื่องคอมพิวเตอร์
UNIVAC I (Universal Automatic Computer I) สำเร็จในปี ค.ศ. 1951 โดยใช้เทปแม่เหล็กเป็นสื่อบันทึกข้อมูล
นับว่าเป็นคอมพิวเตอร์สำหรับใช้งานทางธุรกิจเป็นเครื่องแรกของโลก
โดยติดตั้งให้กับบริษัท General Electric Appliance ในปี ค.ศ. 1954 ต่อมาบริษัท
Speery Rand Corporation เปลี่ยนชื่อเป็น
บริษัทยูนิแวคและยูนิซิส จนกระทั่งบริษัทไอบีเอ็ม ได้ก้าวเข้าสู่วงการคอมพิวเตอร์
และได้พัฒนาเครื่องคอมพิวเตอร์จนเจริญก้าวหน้ามาตามลำดับ
|
|
ค.ศ. 1965
|
บริษัทไอบีเอ็ม
สร้างเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องแรกคือ IBM 701 และในปี ค.ศ.
1954 สร้างเครื่อง IBM 650
และเป็นแบบที่ใช้กันแพร่หลายในระยะ 5 ปีต่อมา เป็นเครื่องที่ใช้หลอดสุญญากาศ
ต่อมาปรับปรุงดัดแปลงมาใช้วงแหวนแม่เหล็ก (Magnetic Core) เป็นวงแหวนเล็ก
ๆ โดยจัดวางชิดกันเป็นแผ่นคล้ายรังผึ้ง เวลาเครื่องทำงาน ความร้อนจึงไม่สูง
และเมื่อมีการนำทรานซิสเตอร์มาใช้แทนหลอดสุญญากาศ
ทำให้สามารถลดขนาดเครื่องลงได้มาก ความร้อนลดลง ไม่เปลืองเนื้อที่ภายในเครื่อง
บริษัทไอบีเอ็ม
สร้างเครื่อง IBM
System 360 ใช้หลักไมโครอิเล็กทรอนิกส์ มีความในการทำงานสูงขึ้น
ขนาดของเครื่องเล็กลง และมีระบบหน่วยความจำที่ดีกว่าเดิม
คอมพิวเตอร์ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากหลาย ๆ กลุ่ม
เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า วิทยาการที่นำสมัย ทำให้คอมพิวเตอร์เป็นที่ต้องการมากขึ้น
การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้มากขึ้น
คอมพิวเตอร์ในปัจจุบันจึงมีประสิทธิภาพสูง ขนาดของเครื่องเล็กลง ราคาถูก เป็นที่นิยมใช้กันทั่วไป
และในอนาคตคาดว่า คอมพิวเตอร์
จะกลายเป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นในการใช้งานเช่นเดียวกับเครื่องไฟฟ้าในบ้านประเภทอื่น
ๆ
|
เจ เพรสเปอร์เอ็คเคิร์ท (J. Presper Eckert) นักวิศวกร
และ จอห์น มอชลี (John Mauchly)
|
|
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น